Title: Side story
Rating: PG-13
Author note: ตัวออริจินอลอยู่ในเฟสค่ะ นิยายเรื่องเป็นนิยายเวียนค่ะ ผลัดกันเเต่ง เอมามาเเปให้ชมกันค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จะว่าไปแล้ว บุคคลที่เป็นคณะกรรมการนักเรียนรุ่นนี้ กล่าวได้ว่าไม่ปกติสักคน เป็นที่สงสัยกันในหมู่นักเรียนบางกลุ่มว่าคณะกรรมการนักเรียนชุดนี้ จับสลากเป็นงั้นเหรอ ? และสุดท้านักเรียกลุ่มนั้นก็สนหน่วยกล้าตามาถามให้รู้แล้วรู้รอดไป สุดท้ายหน่วยกล้าตายคนนั้นก็ต้องวิ่งหลบขวดน้ำกรด2-3ขวดที่ลอยมาหาเขา...
“เฮบบี้...เจ้าพวกนี้วางไว้ไหนดีอ่ะ”
..... อะไรของยัยนี่ อยู่ๆจะมาเก็บกวาดห้อง เผลอเอายาล้างห้องน้ำกรอกปากมารึไง......
“อย่ายุ่งน่า เอาไปวางไว้ที่เดิมซ่ะ” เด็กหนุ่มพูดพลางจัดเก็บเอกสารบนโต๊ะที่เพิ่งทำเสร็จมาได้ไม่นาน จริงๆแล้วเอกสารนั้นก็เป็นพวกงานค้าง สิบปีสิบชาติประธานนักเรียนคนนี้เพิ่งคิดจะทำ ตัวเขานั้นก็ไม่ใช่คนที่จะโยนงานของตัวเองให้คนอื่นตลอดอยู่แล้ว แต่ก็ทำเป็นซะส่วนใหญ่ล่ะนะ
“อะไรกัน พอฉันทำรกก็ว่า พอจะเก็บให้ก็ห้าม อายามี้ ช่วยฉันที”
......เวลาเธอมีปัญหาอะไร ไม่เคยคิดที่จะช่วยตัวเองเลยใช่ไหม ให้ตายสิ แล้วก็ยัยเลขานั่งนิ่งไม่ขยับไปไหนเลย วันๆนี่ไม่คดจะทำอะไรนอกจากอ่านหนังสือการ์ตูนไม่ก็หมกตัวอยู่เต่ในห้องนี้รึไง......
เด็กหนุ่มอายุสิบแปดกำลังขยี้เรือนผมสีเขียวของตัวเองพลางมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง สิ่งที่เห็นก็เป็นท้องฟ้าโทนสีเดียวกันทุกวัน และเกือบทุกเวลาด้วย สีน้ำเงินข้มของท้องฟ้าในยามค่ำคืน ทั้งๆที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็รู้สึกว่ามันแปลกใหม่สำหรับเขาอยู่ดี เด็กหนุ่มที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ก็ถูกปลุกด้วยเสียงของใครบางคน...
“คิดจะทำตัวเป็นพระเอกล่ะก็...เร็วไปร้อยปีค่ะ อ่ะ ขอโทษ..” เด็กสาวผมยาวเผลอหลุดความในใจออกไปเมื่อรู้ตัวเธอจึงยกหนังสือขึ้นมาบังครึ่งหน้าด้านล่างของเธอ ทำเอาคนโดนขัดมีอาการคิ้วกระตุกอย่างไรไม่ทราบได้ ก็พาลเอามือไม้สั่นอยากหยิบเอาหลอดทดลองที่มีป้ายเขียนว่า’ไซยาไนด์’แปะอยู่มากรอกปากสาวเจ้าเล่นยังไงยังงั้น เมื่อมองไปอีกทีจะพบว่าคนพูดขัดนั้น ตอนนี้กลับมานั่งอย่างหนังสือด้วยท่าทางปกติที่เธอเป็นอยู่เกือบทุกเวลาแล้ว
ส่วนตัวเด็กหนุ่มเองจะพยายามไม่สนใจที่พูดแล้ว แต่ถ้าไม่มีเสียงของอีกคนหนึ่งดังขึ้นมาสมทบ จริงๆต่อให้มันดังขึ้นมาเขาก็คงเมินมันแบบที่คิดไว้อยู่แล้ว
......รู้สึกเหมือนขาดๆอะไรอย่างนะ วันนี้..... เป็นความรู้สึกที่ประธานนักเรียนมีเกือบทุกเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรในหัวของเขาจะมีสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา การกระทำที่เรียกว่า ‘การทดลอง’
ความรู้สึกที่ไม่วายส่งผลให้ส่วนต่างๆของร่างกายขยับตาม เด็กหนุ่มผมเขียวจัดการหยิบกล่องอุปกรณ์ที่จะใช้ทดลองวันนี้ออกมาวางไว้ที่โต๊ะกลางห้องของคณะกรรมการนักเรียก โต๊ะนี้แทบจะเป็นโต๊ะสำหรับเขาโดยเฉพาะ หลังจากที่เขาจัดวางอุปกรณ์ที่จะต้องใช้จริงๆมาวางเรียบร้อย เด็กหนุ่มก็ยกอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้เดินไปวางที่โต๊ะประธานนักเรียกของตัวเอง
ถึงจะทำจนเกือบจะเป็นกิจวัตรแล้วก็เถอะ แต่มันก็สร้างความแปลกให้กับสาวผมฟ้าไม่น้อยเลย เพราะว่าในแต่ล่ะวันที่เฮบิทำการทดลองนั้น แทบจะไม่มีวันไหนทำเรื่องซ้ำกันเลย แล้วันนี้ก็เช่นกัน หน้าตาของอุปกรณ์แต่ล่ะชิ้นแทบจะเรียกว่าแตกต่างจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง ....
“เฮบบี้ วันนี้จะทำอะไรอีกล่ะ เมื่อวานระเบิดสีชมพูนั่นยังไม่พออีกเหรอ” มามิถามขึ้น พลางเดินมาอบ่างข้างๆโต๊ะที่เขาใช้ทดลองอยู่ประจำ
“เมื่อวานก็ส่วนของเมื่อวาน วันนี้ก็ส่วนของวันนี้ล่ะนะ” คนที่จะทำการทดลองพูดขึ้นก่อนริมฝีปากยิ้มขึ้นมาไม่เล็กน้อยก็มากพอที่จะทำสมาชิกในห้องรู้สึกเสียวสันหลังตามๆกัน ว่าอีกไม่นานพวกเขาอาจจะกลายเป็นอดีตสิ่งมีชีวิตไปแล้ว ดีไม่ดีอาจจะได้ลงข่าวหน้าโดยพาดหัวว่า “ดับอนาถ ประธานนักเรียนทดลองผลิตระเบิดปรมาณูขนาดย่อมแต่ผิดพลาด ส่งผลให้ตัวเขาและคนอื่นๆไปสู่สุขคติ(?) กรุณาไว้อาลัย 0.03วิ ก่อนเปิดหน้า XX”
เหมือนเจ้าของรอยยิ้มจะเห็นมโนของเด็กสาวทั้งสองผู้ใช้ชีวิตร่วมอยู่ในห้องนี้ ทำให้เขาตั้งใจว่าหลังจากนี้จะไปเรียนหัดยิ้มที่ดีกว่านี้กับน้องชายของเขา ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็นที่พวกเธอจะสื่อผ่านแววตาและสีหน้าเลยสักนิด
“เอาล่ะ วันนี้จะทำจรวดระเบิดควัน” ประกาศอย่างชัดเจน เพื่อว่าที่สมาชิกในห้องของเขาอาจจะหมดกังวลลงได้
......อย่างน้อยถ้าจรวดพี่แกคนยิงออกไปทางหน้าต่างล่ะนะ..... มามิและอายามิคิดและถอนหายใจโล่งอกพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แต่เปล่าเลย สิ่งที่ประธานนักเรียนกำลังทำคือการสร้างฐานปล่อยจรวดวิถีโค้ง(หรือวิถีตรง)เตรียมยิงออกไปนอกห้อง.....ยิงไปที่ทางเดินหน้าห้องน่ะนะ
ถึงจะปลอดภัยกับคนในห้องก็เถอะ จะว่าไปแล้วก็พอโล่งใจได้เปราะหนึ่ง เพราะว่าห้องนี้ ไม่ค่อยมีนักเรียนคนอยากเดินผ่านหรือว่าจะมาพบประธานคนนี้สักเท่าไร ถ้าเกิดมีจริงๆล่ะก็ถือว่าคนๆนั้นเดินเข้ามาหาเคราะห์เองนะ
ผ่านไปไม่นาน จรวดระเบิดควัน ของประธานเฮบิก็เสร็จ เหลือแค่ขั้นตอนการ’ยิง’ออกไปเท่านั้น เพียงแค่ปรับองศาของฐานนิดหน่อยก็พร้อมที่จะยิงแล้ว
“เฮบบี้ ยิงออกไปทางหน้าต่างเถอะ อย่างน้อยก็ไม่น่าจะโดนใครนะ” สาวน้อยผมฟ้าว่าด้วยน้ำเสียงร่าเริงราวกับไม่ใช่เรื่องของตัวเองแม้แต่น้อย
“ นี่มันเป็นหนึ่งในการทดลองของฉันเลยนะ ยัยบ้า”
“ทดลอง...ยังไง” ถึงจะเหมือนถามก็เถอะ คำตอบมันปรากฏอยู่ในหัวของเธอเรียบร้อยแล้วว่า ’ทดลองว่าจะมีไอ้โง่คนไหนเดินมาหาจรวดของฉันไงล่ะ หึ’ ต่อให้ห้ามยังไงด็ไม่มีทางห้ามได้อยู่แล้ว เธอจึงยอมออกมาแล้วเป็นผู้ชมอยู่ห่างๆ
“โอเค ทุกอย่างโอเคแล้ว พวกเธอหาอะไรปิดจมูกไว้ด้วยล่ะ มันน่าจะมีควันน่ะนะ”
......ขุนทรั่นประธานพูดเองไม่ใช่เหรอคะว่ามันเป็นจรวดระเบิดควันน่ะค่ะ !!! .....
“หลังจากที่ปล่อยตัวไปแล้วจะมีแรงดันส่งให้ตัวจรวดพุ่งไปข้างหน้า และ หลังจากที่จรวดพุ่งออกไป หากไปกระทบกับอะไรเข้าล่ะก็กลุ่มควันที่มีอยู่ข้างในจะถูกปล่อยออกมาเต็มที่เลยล่ะ ถึงเวลานั้นล่ะก็ จู่โจมเลยนะ อ้อ ใช่ แล้วก็หัวจรวดน่ะ ทำจากวัสดุหนัก ถ้าโดนเข้าจังๆล่ะก็อาจจะตายได้เลยนะ ”
.......เดี๋ยวดิ จู่โจ่มอะไร นี่พี่แกตั้งใจจะทดลองเพื่อประดิษฐ์ไอ้นี้ไปขายกับพวกโลกมืดเหรอ !?!?!?.....
ทั้งสองสมาชิกร่วมห้องเผลอมองหน้ากันโดนไม่ได้นัดหมาย และยังเหงื่อตกพร้อมกันโดนไม่ได้นัดหมาย จะให้ไม่สนใจได้ไงก็ พวกเขายังนั่งอยู่ในห้องนี้ ถ้ามันเกิดระเบิดขึ้นมาก่อนพุ่งไปนอกห้องล่ะก็.....เวิ่นกันใจเยอะพอสมควรแล้วพวกเธอทั้งสองก็เหลือบไปเห็นประธานกำลังใส่สารบางอย่างลงในสารละลายอีกอย่างด้วย ไม่นานควันจำนวนมากก็พวยพุ่งออกมาจากท้ายจรวดและตัวจรวดก็พุ่งออกไปนอกห้องแล้ว นับเป็นความยินดีอย่างมากที่พวกเธอยังมีชีวิตต่อไปได้อีกหนึ่งวัน
แต่ก็ยินดีกันได้ไม่นานหรอกนะ ถ้าไม่....
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!” เสียงดังมาจากนอกห้อง....
“แย่แล้ว !”
“........”
รองประธานพุ่งตัวไปอยู่ที่หน้าประตูเป็นที่เรียบร้อยและตามติดๆไปด้วยเลขาฯที่ถือหนังสือติดมือเดินมาที่หน้าห้อง
และสิ่งที่พวกเธอเห็นก็คือ เด็กหนุ่มเรือนผมสีโทนน้ำตาลแดงสวมแว่นตาเหมือนประธาน กำลังยกแขนขึ้นมาบังใบน้าของตนตามสัญชาตญาณ และถัดจากเด็กหนุ่มเคราะห์ร้ายคนนั้นคือจรวดที่ประธานของพวกเธอประดิษฐ์ขึ้น อยู่ห่างจากคอหอยของเด็กคนนั้นสัก 8-10 เซนติเมตรน่าจะได้ ส่วนบริเวณที่จรวดโดนนั้นไม่ต้องพูดถึง......ร้าวจนน่ากลัวว่าอีกไม่นานมันจะพังทลายลง แค่ตอนนี้ยังสามารถเป็นเศษคอนกรีตชิ้นน้อยๆล่วงลงมา
“โอ้....ประสบความสำเร็จสินะ” เดินออกมาดูผลงานของตัวเองด้วยรอยยิ้มยินดี ไม่ว่าจะเป็นจรวดนั่น รอยร้าวบนกำแพงนั้น และการที่มีคนเคราะห์ร้ายก็ด้วย
และวันถัดมา พวกเขากลายเป็นประเด็นข่าวหน้าหนึ่ง ของหนังสือพิมพ์โรงเรียน โดยหัวข้อคงไม่พ้น“คณะกรรมการนักเรียน ก่ออาชญากรรมโดยสุ่มเลือกเหยื่อ เป็นคนที่เดินผ่านห้องคณะกรรมการนักเรียน โดยผู้เคราะห์ร้ายให้การว่า ตนนั้นแค่จะเดินไปคุยกับรองฯเรื่องการเปิดชมรม เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้อย่าเจียดไปห้องนั้นแม้แต่นิดเดียวจะดีกว่า”
“เฮบบี้ ฉันเตือนแล้วนะ แล้วย่างนี้จะมีใครเดินมาส่งงานพวกเราที่ห้องล่ะ” มามิพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“เธอก็เดินไปรับสิ” เฮบินอนอยู่บนเก้าอี้ประธานนักเรียนโดยหลังพาดอยู่ที่วางแขนด้านหนึ่งและขาอยู่อีกด้านหนึ่ง
“......” ไม่มีเสียงออกจากปากของอายาเมะ เธอทำเพียงแค่มองทั้งสองคุยกันอยู่จากโต๊ะของเธอที่เต็มไปด้วยกองหนังสือ
และแล้วห้องก็ตกลงอยู่ในความเงียบได้ไม่นาน
“เอาล่ะ ได้ว่าทำงานของคณะกรรมการนักเรียนแล้ว ไปเดินตรวจตราโรงเรียนกัน” เด็กหนุ่มพูดพลางหยิบเสื้อคลุมตัวเก่งของเขาขึ้นสวม(ซึ่งมันไม่ใช่เครื่องแบบของกรรมการนักเรียน)แล้วหยิบดาบสั้นสองอันที่ถูกเชื่อมให้อยู่ด้วยกันด้วย...ริบบิ้นจะได้มั้ง มาเสียบเขาไว้ที่บริเวณที่เขาเตรียมไว้
“จะว่าไปก็ไม่ได้ ตรวจตราโรงเรียนเลยนี่น่า” มามิเองก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ แล้วเดินไปรอหน้าห้อง
“.....” อายาเมะลุกขึ้นพลางหยิบหนังสือนิยาย (นี่ก็ไม่ใช่เครื่องแบบกรรมการนักเรียน)ติดมือออกไปด้วย
การเดินตรวจตราโรงเรียนของคณะกรรมการได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก และนั่นทำให้บรรดานักเรียนหลายคน ไม่สิต้องบอกว่านักเรียนเกือบทั้งหมดของโรงเรียนคิดเป็นเสียงเดียวกันว่า วันนี้ดวงอาทิตย์อาจจะขึ้นก็ได้นะ ?
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------